Facebook เผยข้อมูลการเช็คอินและมิตรภาพใหม่ในช่วงฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล

แม้ ฟุตบอลโลก 2014 ได้จบลงไปแล้วเกือบครบ 1 สัปดาห์แล้ว แต่ทีม Facebook Data Science ได้ส่งข้อมูลสำรวจเกี่ยวกับการเช็คอินที่สนามแข่ง และมิตรภาพที่เกิดขึ้น ณ ประเทศบราซิล ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ ซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจคือ

• มีการ Check-on  ณ สนามกีฬาที่ใช้ในการแข่งขันมากกว่า 1 ล้านครั้งบน Facebook
• โดยสนามมาราคานา เมืองริโอ เดอ จาเนโร (สนามนี้เป็นสนามที่ใช้ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ) เป็นสนามที่ได้รับการเช็คอินมากที่สุด
• แมทช์ที่มีจำนวนการเช็คอินมากที่สุดคือการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระหว่าง เยอรมนีและอาร์เจนตินา
• ชาวBrazillian มีปริมาณการเช็คอินที่สนามแข่งขันต่างๆ มากที่สุด รองลงมาคือชาวอเมริกัน

• โดยเฉลี่ย ผู้เข้าชมการแข่งขันจากทั่วโลกที่เช็คอินที่ประเทศบราซิลในเดือนมิถุนายน จะมีเพื่อนใหม่บน Facebook เป็นชาวบราซิลเลี่ยน 1 คนและเพื่อนใหม่จากประเทศอื่นๆ อีก 1 คน
• ชาวอเมริกันที่เดินทางไปชมการแข่งขันมีการผูกมิตรกับชาวบราซิลเลี่ยนมากที่สุด ในช่วงฟุตบอลโลก 2014
• นักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรและออสเตรเลียมีแนวโน้มที่จะผูกมิตรต่อกันมากที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่ชาวบราซิลเลี่ยนและชาวอเมริกัน

รู้จักกับ Windows Mobility Center หน้าตั้งค่าควบคุมฮาร์ดแวร์แบบใหม่ บน Windows 8

เชื่อว่าผู้ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ใช้บนระบบปฏิบัติการ Windows มาหลายเวอร์ชั่นแล้ว ก่อนที่เปลี่ยนแปลงหน้าตาใหม่ครั้งใหญ่อย่าง windows 8 และ windows 8.1 หรือบางท่านใช้ windows rt ด้วย การควบคุมพวกปรับความสว่าง เสียง และอื่นๆนั้นส่วนใหญ่จะจัดการผ่านพวก control panel และ ปุ่ม setting แต่บางท่านอาจไม่รู้จักและไม่เคยใช้ Windows Mobility Center มาก่อน ซึ่งเป็นเครื่องมือใหม่ในการควบคุมส่วนของฮาร์ดแวร์ Windows 8 ด้วย

Windows Mobility Center เป็นหน้าต่างที่ช่วยตั้งค่าควบคุมส่วนต่างๆที่สำคัญของ Windows 8 เช่น ตั้งค่าความสว่าง ปรับระดับเสียง การปรับพลังงานแบตเตอรี่ สถานะเชื่อมต่อออกจอทีวี การตั้งค่า sync ในบางครั้งมันสามารถตั้งค่า Windows แสดงผลในแนวตั้ง-แนวนอนด้วย ซึ่งทุกอย่างนี้สามารถควบคุมได้ทันทีผ่านทางหน้าต่าง Windows Mobility Center หน้าต่างเดียว

วิธีการเข้าถึงหน้าต่าง Windows Mobility Center   เรียกเมนู charm bar แล้วคลิกปุ่ม Search (หรือวิธีลัดคือ กดปุ่ม Windows + Q ) จากนั้นพิมพ์ Windows Mobility Center >>เลือกในส่วนหมวด setting  ของการ search ก็จะพบ Windows Mobility Center ได้ทันที

หรือถ้าคุณใช้ในโหมด Desktop ของ Windows 8 , Windows 8.1 , windows rt ละก็ คลิกขวาที่ไอคอนแบตเตอรี่ แล้วเลือก Windows Mobility Center ก็เข้าสู่หน้าต่างตั้งค่า ทาง Windows Mobility Center ได้เช่นกัน

นี่คือเครื่องมือจัดการตั้งค่าด้านฮาร์ดแวร์บน Windows 8 ตัวใหม่ที่ควรรู้จักและช่วยอำนวยความสะดวกกับผู้ใช้มากขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาเข้าถึง Control panel เหมือนรุ่นก่อนๆแล้ว

ขายของออนไลน์ คราวนี้ง่ายขึ้นอีก ด้วยแอพ Line Shop บนมือถือ

ขายของออนไลน์ คราวนี้ง่ายขึ้นอีก ด้วยแอพ Line Shop บนมือถือ

ช่วงนี้กระแสการขายของผ่านทางออนไลน์ และ Social Network ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว จนมีกระแสฝากร้านทาง Instagram และ facebook ก็มีเพียบ หรือแม้แต่การขายของผ่าน line chat แต่ social network นี้ไม่ได้เกิดมาใช้สำหรับการขายของโดยตรง จึงยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง ล่าสุด  Line จึงปล่อยแอพแบบจบในเครื่องมือเดียว สำหรับการประกาศซื้อขายของ ในชื่อว่า Line Shopหากจำได้ Line เคยเปิด Official Account แนวขายของในชื่อ Line Hot Deal และ Line Hot Brand บนแอพ Line ให้คุณได้ซื้อของในราคาพิเศษมาแล้ว คราวนี้ แอพ Line Shop จะเปิดโอกาสให้คุณสามารถประกาศขายสินค้าของคุณเองได้ และสามารถ ซื้อของต่างๆได้ทั้งจากร้านค้าอื่นๆใน Line ที่ประกาศขาย ยิ่งยุคนี้เป็นยุค mobile ด้วยก็สามารถใช้มือถือ เปิดแอพ line shop ในการช้อปปิ้งได้ทุกที่ทุกเวลา

วิธีการใช้เบื้องต้น

ขั้นแรก ดาว์โหลดแอพ Line Shop ได้ที่ App Store และ Play Store

จากนั้นเปิดแอพ Line Shop จะเห็นหน้าตาแอพแบบนี้ โดยหน้าหลักจะแสดงดีลสินค้าจาก Line และร้านค้าพรีเมียมต่างๆ หากแตะที่หมวดหมู่จะแสดงหมวดหมู่สินค้าให้คุณได้เลือกตามความต้องการ

ตอนนี้ลองเข้าสู่ระบบด้วย บัญชี Line ของคุณดู

สิ่งที่เพิ่มมา ก็เป็น ไอคอนระฆัง แทนการแจ้งเตือนว่ามี order แล้วหรือยัง และในส่วนของติดตามอยู่ ที่คุณสามารถติดตาม follow ร้านค้าที่คุณชอบซื้อใน Line shop ได้    
                                   

หากแตะไอคอน 3จุด ด้านขวาบนอีกครั้ง มีเมนูใหม่ถึง 4 รายการ โดยที่เด่นชัดสุดคือ เปิดร้านค้า ให้คุณสามารถเปิดร้านใหม่ และขายผ่านแอพ Line Shop บนมือถือเลย เรียกได้ว่าให้คุณสร้างร้านบนมือถือ ประกาศขายได้ทันทีเลยทีเดียว

ร้านค้าที่เปิดร้านจะมีให้เลือก 2 แบบ ให้คุณเลือกแบบใดแบบหนึ่งเท่านั้น โดยแนะนำให้เลือกร้านค้าแบบธรรมดา ซึ่งฟรีสำหรับคนทั่วไป   ส่วนถ้าเป็นเจ้าของร้านระดับพรีเมียม เจ้าของสินค้า เจ้าของห้างสรรพสินค้า ละก็ คุณสามารถเลือกร้านค้าแบบ Sally Grade ได้ ทั้งนี้ต้องส่งหลักฐานอย่าง หนังสื่อจดทะเบียนบริษัท จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์   หรือ หนังสือยืนยันจากทางแบรนด์สินค้า ด้วย

*** แต่ทางไลน์จะไม่รับผิดชอบต่อการหลอกลวงในการซื้อขายของกันผ่านทางเครื่องมือนี้แต่อย่างใด ดังนั้น การจะซื้อจะขาย ผู้ใช้จึงจำเป็นต้องระมัดระวังกันด้วย ***

ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์

ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์

เป็นการประดิษฐ์เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มิใช่เครื่องคำนวณ โดยเมาช์ลีและเอ็กเคอร์ต (Mauchly and Eckert) ได้นำแนวความคิดนั้นมาประดิษฐ์เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพมากเครื่องหนึ่งเรียกว่า ENIAC (Electronic Numericial Integrator and Calculator) ซึ่งต่อมาได้ทำการปรับปรุงการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น   และได้ประดิษฐ์เครื่อง UNIVAC (Universal Automatic Computer) ขึ้นเพื่อใช้ในการสำรวจสำมะโนประชากรประจำปี          

ลักษณะเฉพาะของเครื่องคอมพิวเตอร์ยุคที่ 1

ใช้อุปกรณ์ หลอดสุญญากาศ (Vacuum Tube) เป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ ใช้พลังงานไฟฟ้ามาก และเกิดความร้อนสูง

ทำงานด้วยภาษาเครื่อง (Machine Language) เท่านั้น

เริ่มมีการพัฒนาภาษาสัญลักษณ์ (Assembly / Symbolic Language) ขึ้นใช้งานหลอดสุญญากาศ (Vacuum Tube)

มีการนำทรานซิสเตอร์ มาใช้ในเครื่องคอมพิวเตอร์จึงทำให้เครื่องมีขนาดเล็กลง และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มีความรวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในยุคนี้ยังได้มีการคิดภาษาเพื่อใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์เช่น ภาษาฟอร์แทน (FORTRAN) จึงทำให้ง่ายต่อการเขียนโปรแกรมสำหรับใช้กับเครื่อง

ลักษณะเฉพาะของเครื่องคอมพิวเตอร์ยุคที่ 2

ใช้อุปกรณ์ ทรานซิสเตอร์ (Transistor) ซึ่งสร้างจากสารกึ่งตัวนำ (Semi-Conductor) เป็นอุปกรณ์หลัก แทนหลอดสุญญากาศ เนื่องจากทรานซิสเตอร์เพียงตัวเดียว มีประสิทธิภาพในการทำงานเทียบเท่าหลอดสุญญากาศได้นับร้อยหลอด ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ในยุคนี้มีขนาดเล็ก ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อย ความร้อนต่ำ ทำงานเร็ว และได้รับความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

เก็บข้อมูลได้ โดยใช้ส่วนความจำวงแหวนแม่เหล็ก (Magnetic Core)

มีความเร็วในการประมวลผลในหนึ่งคำสั่ง ประมาณหนึ่งในพันของวินาที (Millisecond : mS)

สั่งงานได้สะดวกมากขึ้น เนื่องจากทำงานด้วยภาษาสัญลักษณ์ (Assembly Language)

เริ่มพัฒนาภาษาระดับสูง (High Level Language) ขึ้นใช้งานในยุค

คอมพิวเตอร์ในยุคนี้เริ่มต้นภายหลังจากการใช้ทรานซิสเตอร์ได้เพียง 5 ปี เนื่องจากได้มีการประดิษฐ์คิดค้นเกี่ยวกับวงจรรวม (Integrated-Circuit) หรือเรียกกันย่อๆ ว่า "ไอซี" (IC) ซึ่งไอซีนี้ทำให้ส่วนประกอบและวงจรต่างๆ สามารถวางลงได้บนแผ่นชิป (chip) เล็กๆ เพียงแผ่นเดียว จึงมีการนำเอาแผ่นชิปมาใช้แทนทรานซิสเตอร์ทำให้ประหยัดเนื้อที่ได้มาก

 ลักษณะเฉพาะของเครื่องคอมพิวเตอร์ยุคที่ 3

ใช้อุปกรณ์ วงจรรวม (Integrated Circuit : IC) หรือ ไอซี และวงจรรวมสเกลขนาดใหญ่ (Large Scale Integration : LSI) เป็นอุปกรณ์หลัก

ความเร็วในการประมวลผลในหนึ่งคำสั่ง ประมาณหนึ่งในล้านของวินาที (Microsecond : mS) (สูงกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ในยุคที่ 1 ประมาณ 1,000 เท่า)

ทำงานได้ด้วยภาษาระดับสูงทั่วไป

เป็นยุคที่นำสารกึ่งตัวนำมาสร้างเป็นวงจรรวมความจุสูงมาก (Very Large Scale Integrated : VLSI) ซึ่งสามารถย่อส่วนไอซีธรรมดาหลายๆ วงจรเข้ามาในวงจรเดียวกัน และมีการประดิษฐ์ ไมโครโพรเซสเซอร์ (Microprocessor) ขึ้น ทำให้เครื่องมีขนาดเล็ก ราคาถูกลง และมีความสามารถในการทำงานสูงและรวดเร็วมาก จึงทำให้มีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer) ถือกำเนิดขึ้นมาในยุคนี้

ลักษณะเฉพาะของเครื่องคอมพิวเตอร์ยุคที่ 4

ใช้อุปกรณ์ วงจรรวมสเกลขนาดใหญ่ (Large Scale Integration : LSI) และ วงจรรวมสเกลขนาดใหญ่มาก (Very Large Scale Integration : VLSI) เป็นอุปกรณ์หลัก

มีความเร็วในการประมวลผลแต่ละคำสั่ง ประมาณหนึ่งในพันล้านวินาที (Nanosecond : nS) และพัฒนาต่อมาจนมีความเร็วในการประมวลผลแต่ละคำสั่ง ประมาณหนึ่งในล้านล้านของวินาที (Picosecond : 

pS)

ในยุคนี้ ได้มุ่งเน้นการพัฒนา ความสามารถในการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ และ ความสะดวกสบายในการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ อย่างชัดเจน มีการพัฒนาสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาขนาดเล็กขนาดเล็ก (Portable Computer) ขึ้นใช้งานในยุคนี้
สามารถวิเคราะห์ปัญหาด้วยเหตุผล

           

องค์ประกอบของระบบปัญญาประดิษฐ์ ประกอบด้วย 4 หัวข้อ ได้แก่

1. ระบบหุ่นยนต์ หรือแขนกล (Robotics or Robotarm System)
คือหุ่นจำลองร่างกายมนุษย์ที่ควบคุมการทำงานด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์

2. ระบบประมวลภาษาพูด (Natural Language Processing System)
คือ การพัฒนาให้ระบบคอมพิวเตอร์สามารถสังเคราะห์เสียงที่มีอยู่ในธรรมชาติ (Synthesize) เพื่อสื่อความหมายกับมนุษย์ เช่น เครื่องคิดเลขพูด

3. การรู้จำเสียงพูด (Speech Recognition System)
คือ การพัฒนาให้ระบบคอมพิวเตอร์เข้าใจภาษามนุษย์ และสามารถจดจำคำพูดของมนุษย์ได้อย่างต่อเนื่อง

4. ระบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert System)
คือ การพัฒนาให้ระบบคอมพิวเตอร์มีความรู้ รู้จักใช้เหตุผลในการวิเคราะห์ปัญหา โดยใช้ความรู้ที่มี หรือจากประสบการณ์ในการแก้ปัญหาหนึ่ง 

วิธีการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ

• ทำความรู้จักคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
  ปัจจุับัน สามารถแบ่งออกได้สองประเภท คือ?คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแบบทั่วไป กับ All-in-One คือตั้งเครื่องกับหน้าจอ รวมเป็นชิ้นเดียว สะดวกและประหยัดพื้นที่ในการติดตั้งมากและที่สำคัญ All-in-One มักมีคุณสมบัติหน้าจอเป็นแบบสัมผัสหรือ Touch Screen ด้วย ส่วนราคาก็แตกต่างกันไม่มากนักในปัจจุบัน
• สเปคคอมฯ เลือกอย่างไร
  วิธีการง่ายๆ ในการเลือกซื้อสเปคคอมฯ (สำหรับการใช้งานในอนาคต 3-5 ปี)
  • CPU รุ่นล่าสุด อย่างเช่น Intel Core i3 ขึ้นไป ที่เป็นรุ่นใหม่ (ปัจจุบันคือ Intel Generation 4)
  • Ram หรือหน่วยความจำ อย่างน้อย 2 GB แนะนำให้ซื้อ 4 GB
  • Hard disk ฮาร์ดดิกส์ ซื้อครั้งเดียว ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย 1 TB ขึ้นไป
  • LCD/LED Monitor ขนาดตามต้องการ แนะนำขั้นต่ำ 20 นิ้วขึ้นไป
• ระบบปฏิบัติการ หรือ OSแนะนำให้เลือกรุ่นใหม่ นั่นคือ Windows 8.1
• ซื้อแบรนด์ หรือเครื่องประกอบดี
  เครื่องแบรนด์ หมายถึงคอมพิวเตอร์ที่มียี่ห้อและเป็นที่นิยมใช้กัน ตัวอย่างเช่น HP / Dell / Acer / Sony / Toshiba / Asus เป็นต้น ส่วนเครื่องประกอบคือ เครื่องที่เราสั่งโดยสามารถเลือกส่วนประกอบแต่ละชิ้นได้ แนะนำสำหรับผู้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี มิฉะนั้น อาจได้คอมฯ สเปคสูงเกินจริง หรือราคาไม่เหมาะสม
• เรื่องประกัน สำคัญมาก
  แนะนำให้เลือกซื้อคอมฯ โดยเฉพาะแบรนด์ที่มีการรับประกันอย่างน้อย 1 ปี แต่แนะนำให้เลือก 3 ปีเลย (เพิ่มเงินอีกนิดหน่อย) แต่รองรับการประกันที่ยาวนานมากขึ้น โดยเฉพาะกับมือใหม่หัดใช้คอมฯ ที่ีมีความรู้ไม่มากนัก
• สถานที่จำหน่าย ที่ไหนดี
  ปัจจุบัน เราสามารถเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ไ้ด้จากห้างร้านทั่วไปโดยเฉพาะตามห้างสรรพสินค้าา หรือห้างไอทีโดยตรง เช่น พันธ์ทิพย์พล่าซ่า (มีหลายสาขา) ฟอร์จูนทาวน์ (พระราม 9) เซียร์รังสิต เป็นต้น การเลือกซื้อตามห้างเป็นเรืื่องที่สะดวกมากๆ เพราะสามารถเลือกดูและเลือกเปรียบเทียบได้ เพราะปกติจะมีรายร้านให้เลือก