วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

   ความสนใจต่อเพื่อนต่างเพศของวัยรุ่น
              เป็นประสบการณ์ใหม่ของวัยรุ่นซึ่งจะไม่รุนแรงและจริงจังเหมือน
              มักจะเปลี่ยนแปลง เช่นในข่าวหนังสือพิมพ์ สื่อมวลชนต่างๆ พบว่าวัยรุ่น

              น้อยรายมากที่คบกันตั้งแต่อายุยังน้อยแล้วแต่งงานกัน บางคู่มีความสัมพันธ์กัน
              แล้วก็เลิกกัน  สรุปได้ว่าความรักของวัยรุ่นเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เปลี่ยนแปลง
             ได้ง่าย โดยเฉพาะวัยรุ่นหญิงไม่ควรปล่อยตัว ปล่อยใจให้แก่วัยรุ่นชายจนถึงขั้น
              มีเพศสัมพันธ์

วัยรุ่นกับการคบเพื่อนต่างเพศ

การสนใจเพศตรงข้ามเป็นธรรมชาติของวัยรุ่น การที่วัยรุ่นจะคบเพื่อนต่างเพศไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดในสังคมปัจจุบัน แต่วัยรุ่นที่คิดจะมีคู่ครองต้องระวังตนเอง ให้คบกันในขอบเขตที่เหมาะสม


ลักษณะการคบเพื่อนต่างเพศ
  • คบแบบเพื่อน
  • คบแบบคู่ควงหรือคู่รัก
อายุระหว่าง 14-16 ปี เด็กชายจะเริ่มสนใจผู้หญิง บางคนเริ่มจับคู่กัน วัยรุ่นชายและหญิงต้องการการตอบสนองทางเพศแตกต่างกัน
การคบกันแบบคู่ควงหรือคู่รัก
  • วัยรุ่นหญิงต้องการเพียง " ความรัก " ความรู้สึกอบอุ่นใจ มีคนปกป้อง ห่วงใย ต้องการความโรแมนติกเท่านั้น
  • วัยรุ่นชายเริ่มต้องการ " ความใคร่ " ฝ่ายหญิงอาจเพลี่ยงพล้ำ ถ้าปล่อยตัว ปล่อยใจให้เคลิบเคลิ้มไปกับอารมณ์โรแมนติกโดยไม่รู้ตัว
ผลของการเผลอใจ การเผลอใจอาจทำให้วัยรุ่นตั้งครรภ์ก่อนถึงเวลาอันควร ซึ่งตัววัยรุ่นเอง ครอบครัวและสังคมยอมรับไม่ได้

วัยรุ่นควรลองถามตัวเองดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าตั้งครรภ์ในขณะที่เรียน
  • พ่อแม่จะว่าอย่างไร
  • การเรียนที่โรงเรียนจะเป็นอย่างไร
  • เพื่อนบ้านเขาจะพูดว่าอย่างไร
  • พ่อของลูกจะรับผิดชอบหรือไม่
  • จะเลี้ยงลูกอย่างไร
  • จะผิดศีลธรรมและเป็นตราบาปหรือไม่
ครอบครัวเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็ก
ผู้ใหญ่ในครอบครัวเป็นบุคคลสำคัญที่สุดที่จะช่วยชี้นำอบรมให้ลูกวัยรุ่นคบเพื่อนต่างเพศได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากวัยรุ่นยังไม่บรรลุวุฒิภาวะทางอารมณ์เท่าที่ควร ผู้ใหญ่ต้องเข้าใจธรรมชาติของเด็ก
  • ให้ความไว้วางใจในตัวเขา
  • ให้โอกาสเขาพูดเมื่อต้องการปรึกษา
  • พยายามสังเกตท่าทีอยู่ห่างๆ
  • ต้องสร้างครอบครัวให้อบอุ่น ให้รู้สึกว่าบ้านน่าอยู่ ไม่ให้เกิดการผลักดันให้เด็กออกไปหา " ความอบอุ่นนอกบ้าน" ท่านก็จะได้ลูกที่เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

 แนวทางในการคบเพื่อนต่างเพศที่เหมาะสมกับสังคมและวัฒนธรรมไทย
                สังคมและวัฒนธรรมไทยยึดถือเรื่องการปฏิบัติตนที่ถูกต้องเหมาะสมในการคบกาสมาคมกันระหว่างชายหญิงมาช้านาน ซึ่งต้องปฏิบัติตนและวางตัวให้เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป แม้ว่าคนไทยในปัจจุบันจะยอมรับวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามาใช้มากขึ้น แต่วัฒนธรรมหรือรูปแบบวิถีการดำรงชีวิตบางลักษณะก็ไม่เหมาะสมต่อการนำมาใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ นักเรียนในฐานะเป็นคนไทยคนหนึ่งควรยึดถือแนวทางการปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับสภาพสังคมและวัฒนธรรมไทย เพื่อให้เป็นทีชื่นชมและยอมรับของผู้อื่นที่อยู่ในสังคมและวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะเรื่องการคบหาสมาคมกับเพื่อนต่างเพศทั้งเพื่อนชายและเพื่อนหญิงจะต้องประพฤติตนให้ถูกต้องเหมาะสมด้วย ซึ่งในที่นี้จะนำเสนอแนวทางการคบเพื่อนต่างเพศที่เหมาะสมกับสังคมและวัฒนธรรมไทย เพื่อที่นักเรียนจะได้รู้และเข้าใจหรือพิจารณานำมาปฏิบัติให้เกิดผลดีต่อตัวเองในโอกาสต่าง ๆ ดังนี้
                1.การรู้จักวางตัวระหว่างเพศ การตัวที่ดีแสดงถึงการมีมารยาททางสังคมของคนคนนั้นเนื่องจากธรรมชาติของเพศชายและเพศหญิงมีความแตกต่างกันในหลายเรื่อง จึงต้องรู้จักระมัดระวังและวางตัวให้ดี เช่น เพื่อนชายไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวเพื่อนหญิง การจับมือถือแขนหรือการโอบกอดก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรปฏิบัติ ถึงแม้จะสนิทสนมกันเพียงใดก็ตาม เพราะคนทั่วไปมองว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมของคนไทย เพื่อนหญิงก็เช่นกันไม่ควรกล้าจนเกินงาม โดยเปิดโอกาสให้เพื่อนชายได้ใกล้ชิดหยอกล้าถึงเนื้อถึงตัว เพราะพฤติกรรมดังกล่าวจะทำให้ผู้หญิงถูกสังคมมองในแง่ลบได้ง่ายกว่าผู้ชาย ดังนั้น จึงควรวางตัวให้ถูกกาลเทศะของวัยด้วย

                2.การเลือกคบเพื่อนต่างเพศที่ดี เพื่อนต่างเพศมีหลายลักษณะมีทั้งที่เป็นคนดีและไม่ดี จึงควรใช้วิจารณญาณของตนเองในการเลือกคบให้รอบคอบ เพราะจะมีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของนักเรียนได้มากหากเลือกคบไม่ถูกต้อง การพิจารณาคุณสมบัติของบุคคลที่จะมาเป็นเพื่อนนั้นควรมองตามสภาพความเป็นจริงที่เหมาะสมกับสถานภาพของตนเอง โดยเฉพาะเรื่องนิสัยใจคอ ความชอบ ความพึงพอใจในพฤติกรรมระหว่างกัน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นในการยึดเหนี่ยวน้ำใจต่อกันไว้ได้ สังคมไทยปลูกฝังเกี่ยวกับการคบเพื่อนไว้ คือ เพื่อนที่ดีจะต้องชักนำพาทั้งเราและเพื่อนไปสู่ทางที่เจริญ ได้แก่ ชักชวนหรือชี้นำกันตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ไม่ชักชวนเพื่อให้เล่นการพนันและเสพสารเสพติด เช่น ดื่มเหล้า เบียร์ หรือสูบบุหรี่ เพื่อนลักษณะนี้ควรคบหาสมาคมและควรปฏิบัติในแนวทางต่อกันดังกล่าวเรื่อยไป เพราะเป็นสิ่งที่ดีที่สังคมยกย่องนับถือและยอมรับ อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้เกิดคุณค่าในตนเองอีกด้วย

                3.การช่วยเหลือเกื้อกูลระหว่าเพศ การช่วยเหลือเกื้อกูลกันเป็นลักษณะเฉพาะของความเป็นคนไทย ซึ่งคนไทยมีวัฒนธรรมเรื่องความมีน้ำใจต่อกันมาช้านานจนเป็นที่ยอมรับของชาวโลก ซึ่งการช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่างเพศก็เป็นสิ่งสมควรปลูกฝังและปฏิบัติต่อกันเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างเพศให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ผู้หญิงจะรู้สึกภูมิใจมาก ถ้าเพื่อนชายของตนเป็นคนดี มีน้ำใจ และอยากคบหาสมาคมไว้นาน ส่วนผู้ชายก็เช่นกันต้องการความมีน้ำใจช่วยเหลือเกื้อกูลจากเพื่อนหญิง ถึงแม้บางครั้งจะไม่แสดงออกถึงความต้องการโดยตรง แต่จะรู้สึกดีถ้าเพื่อนหญิงของตนมีพฤติกรรมเช่นนี้ ตัวอย่างของการแสดงออกถึงความมีน้ำใจด้วยการช่วยเหลือเกื้อกูลระหว่างเพศ เช่น เพื่อนชายช่วยเพื่อนหญิงถือของ สละที่นั่งให้ อาสาพาไปส่งในที่ปลอดภัย ลุกขึ้นต้อนรับเมื่อเพื่อนหญิงมาหา ส่วนสิ่งที่แสดงถึงน้ำใจที่เพื่อนหญิงมีต่อเพศชาย เช่น ช่วยสอนการบ้าน ช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องอาหารการกิน ช่วยดูแลห่วงใยเมื่อเจ็บป่วย เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ นอกจากทำให้สัมพันธภาพระหว่างเพื่อนมั่นคงยืนยาวแล้ว สังคมภายนอกยังยกย่องสรรเสริญอีกด้วย

วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558




ความหมายและความสำคัญของการคบเพื่อนต่างเพศ 
                เพื่อน หมายถึง บุคคลผู้เป็นที่รักใคร่ชอบพอ สนิทสนม คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เช่น เพื่อนร่วมรุ่น เพื่อนร่วมชั้นเรียน
             
                การคบเพื่อนต่างเพศ หมายถึง การคบหาสมาคมกับบุคคลที่ต่างจากเพศเดียวกับตน
เมื่อวิเคราะห์ถึงความสำคัญของการคบเพื่อนต่างเพศแล้วจะพบว่า เพื่อนเป็นบุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตของวัยรุ่นทุกคน เพราะสามารถสร้างความสุขสดชื่น สนุกสนาน และเป็นคนที่คอยแนะนำและให้คำปรึกษาแก่เราทั้งในยามสุขและยามทุกข์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งการคบเพื่อนถือว่าเป็นรูปแบบของพัฒนาการทางสังคมที่สำคัญอย่างหนึ่งของวัยรุ่น

                วัยรุ่นเมื่อย่างก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ย่อมมีความต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่นอกเหนือไปจากเพื่อนเพศเดียวกัน นั่นก็คือ ความปรารถนาจะได้ความเป็นเพื่อนกับเพศตรงข้าม ซึ่งเป็นความต้องการตามธรรมชาติ และการคบเพื่อนต่างเพศนี้เอง จึงทำให้เกิดการเรียนรู้ถึงวิธีการปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนต่างเพศเพื่อนำไปสู่การมีครอบครัวในอนาคต และโดยเหตุที่ธรรมชาติของเพศชายและเพศหญิงมีความแตกต่างกัน นักเรียนจึงควรเรียนรู้ ทำความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวให้ถูกต้อง จะช่วยให้พัฒนาการทางวุฒิภาวะและบุคลิกภาพมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2558


รูปแบบของการคบเพื่อนต่างเพศในวัยรุ่น
               
 การคบเพื่อนต่างเพศมีความสำคัญต่อวัยรุ่นดังที่ได้กล่าวแล้ว ซึ่งในที่นี้จะนำเสนอรูปแบบการคบเพื่อนต่างเพศในวัยรุ่นที่มีรูปแบบเฉพาะบุคคลที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. การคบเพื่อนต่างเพศในฐานะเพื่อสนิท
                นักเรียนในฐานะที่อยู่ในวัยกำลังศึกษาเล่าเรียน ทั้งอยู่ในระบบ นอกระบบหรือการศึกษาตามอัธยาศัยต้องพบปะ พูดคุย ทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น หรือประสบการณ์กับเพื่อนทั้งเพื่อนเพศเดียวกันและเพื่อนต่างเพศ ซึ่งการคบหาสมาคมกันนั้นย่อมต้องเกิดสายสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนขึ้น โดยเฉพาะวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยที่ให้ความสนใจกับเพื่อนต่างเพศ จะเกิดความพึงพอใจเฉพาะบุคคลในการคบหาสมาคมกับเพื่อนใดคนหนึ่งหรือหลายคน ซึ่งมีความแตกต่างกันจนก่อความสัมพันธ์เป็นเพื่อนสนิท ไปไหนมาไหนด้วยกัน รับประทานอาหารร่วมกัน ทำกิจกรรมที่ชอบและมีความสนใจร่วมกัน ซึ่งการปฏิบัติในลักษณะที่เด่นชัดที่พบว่า เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นก็สามารถบอกเล่า ปรึกษากันได้อย่างเปิดเผยตรงไปตรงมาได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีในระดับความสัมพันธ์ตามวัย
การคบเพื่อนต่างเพศเป็นเพื่อนสนิทมีข้อดีคือ ช่วยทำให้รู้จักการปรับตัว วางตัวกับบุคคลที่ไม่ใช่เพศเดียวกับตน ได้ศึกษาเรียนรู้นิสัยใจคอ ช่วยพัฒนาความรู้ ความคิด ประสบการณ์ และสร้างบุคลิกภาพให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น เมื่อเจริญเติบโตออกสู่สังคมก็ช่วยลดปัญหาการปรับตัวระหว่างเพศได้มาก เป็นต้น

2.การคบเพื่อนต่างเพศในฐานะคู่รัก

                การคบเพื่อนต่างเพศในฐานะคู่รักเป็นรูปแบบความสัมพันธ์ก็อย่างหนึ่งที่มีขึ้นได้ในวัยรุ่นซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากช่วงนี้วัยรุ่นมีพัฒนาการความเจริญเติบโตขึ้นมาก ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม ที่ใกล้เคียงกับผู้ใหญ่ ย่อมมีความปรารถนาต้องการให้ตนเองเป็นที่รักหรือให้ความรัก ความสนใจกับผู้อื่นมากเป็นพิเศษ นอกเหนือจากพ่อแม่ผู้ปกครองที่เคยมีมา
                ความรักเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกสุข สดชื่น มีกำลังใจ มีคุณค่า และมีพลังในการต่อสู้ เรียนรู้ และทำกิจกรรมของชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา สำหรับการก่อเกิดความสัมพันธ์กับเพื่อนต่างเพศของวัยรุ่นในฐานะคู่รักก็เช่นเดียวกัน สามารถสร้างพลังสร้างสรรค์ในวัยรุ่นได้ ถ้ารู้จักรักให้เป็นและวางตัวให้ถูกต้องเหมาะสมตามวัย ชักชวนกันตั้งใจศึกษาเล่าเรียนเพื่อหาความรู้ใส่ตัวให้มากจะได้มีอนาคตที่ดีต่อไป ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญของวัยรุ่นที่ควรทำ

3.การคบเพื่อนต่างเพศในฐานะเพื่อนร่วมปฏิบัติงาน

                เพื่อนร่วมปฏิบัติงานที่เป็นเพื่อนต่างเพศ มีส่วนสำคัญต่อการดำรงชีวิตของวัยรุ่นเช่นเดียวกัน ซึ่งเพื่อนลักษณะนี้ถ้าร่วมปฏิบัติงานกันเป็นระยะเวลานานก็สามารถพัฒนาความสัมพันธ์กลายเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจได้ แต่อย่างไรก็ตามการร่วมปฏิบัติงานกันในระยะเวลาสั้นก็ควรคำนึงถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันด้วย เพื่อให้งานหรือกิจกรรมที่กำลังดำเนินอยู่ประสบผลสำเร็จลุล่วงตามต้องการ
                การคบเพื่อนต่างเพศที่มาร่วมงานกันต้องอาศัยการเรียนรู้ซึ่งกันและกันที่มากพอในระดับหนึ่งด้วย เช่น ลักษณะบุคลิกภาพ นิสัยใจคอ เพื่อจะได้วางตัวและปฏิบัติต่อกันได้อย่างถูกต้องเหมาะสมไม่ก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งหรือไม่ลงรอยกันตามมาได้
การให้โอกาสเรียนรู้จักเพศตรงข้าม 
         ยุคปัจจุบันที่สังคมไทยเปิดเผยเรื่องเพศเพิ่มขึ้น มีการแสดงออกเพิ่มขึ้นจนเห็นตัวอย่างได้ง่ายๆที่ชายหญิงกอดกัน แต่งตัวอวดรูปร่างเพิ่มขึ้นและเห็นว่าธรรมดา เป็นแฟชั่นทันสมัย ขณะเดียวกันสื่อโทรทัศน์ที่มีเรื่องทางเพศมากมายทุกรูปแบบ จนทำให้วัยรุ่นไม่ค่อยมีความระมัดระวังตัวในเรื่องเพศ
         พ่อแม่ยุคใหม่จึงลำบากใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งที่มีลูกสาวหรือลูกชายที่สาวๆรุมจีบ โทรมาไม่เว้นแต่ละวัน จะห้ามมากๆก็กลัวจะแอบหนีไปพบกัน จะส่งเสริมก็ใช้ที่ ความที่พ่อแม่มีประสบการณ์มาก่อนและสามารถมองเหตุการณ์ล่วงหน้าในทางไม่ดีได้มากกว่า และไม่อยากให้ลูกได้รับอันตราย
สิ่งที่ต้องคำนึงถึง

          1. ข้อดี การที่ลูกเรามีคนมาชอบ แสดงว่าลูกเรามีส่วนดีที่คนอื่นมองเห็น และถ้าลูกชอบเพศตรงข้ามแสดงว่าลูกเราไม่ผิดเพศแน่นอน และช่วงนี้จะเป็นช่วงที่วัยรุ่นสนใจ อยากรู้ อยากเห็น อยากปรับปรุงตัวเองช่วงหนึ่ง จึงเป็นช่วงที่พ่อแม่จะเป็นพี่เลี้ยงในการให้คำแนะนำในสิ่งที่เหมาะสม จะเป็นช่วงที่มีการเรียนรู้ได้สูง
          2.จังหวะ จังหวะที่สอนในเรื่องต่างๆมีความสำคัญ สิ่งควรสอนก่อนที่วัยรุ่นจะเริ่มมีแฟน เช่น สอนให้หัดยับยั้งตัวเอง ให้ทำตามกฎเกณฑ์ มีวินัยในตัว รับผิดชอบผลของการกระทำ ให้เรียนรู้จักคนหลายๆด้าน ความแตกต่างชายหญิง เป็นต้น แต่เมื่อมีแฟนแล้วก็ให้สอนวิธีการในการมีแฟนอย่างปลอดภัยโดยไม่เสียการเรียน มารยาทที่จะทำให้ต้องตา ถูกใจทั้งผู้ใหญ่และคนที่เขาชอบ เช่น การวางตัว การรักษาเวลา การแบ่งเวลา การดูแลความสะอาด ความมั่นคง การป้องกันอันตราย ความเป็นสุภาพบุรุษ คือ การให้เกียรติทั้งแฟนและญาติผู้ใหญ่ ความเป็นสุภาพสตรี คือ การวางตัว การรักษาเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ของทั้งตัวเองและพ่อแม่ เป็นต้น
         

3. ขอบเขต การที่คนรักกัน หรือชอบกันเป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น ถ้าสามารถนำความรัก ความชอบมาพัฒนาทั้งคู่ให้ดีขึ้น กำหนดขอบเขตที่เหมาะสมในการคบเพื่อนต่างเพศให้เหมาะสมเพื่อที่ไม่ไปรบกวนการเรียน พยายามดึงใจตัวเองมิให้วอกแวก เวลาเรียนเพื่อการเรียน ติดต่อนอกห้องเรียนเพื่อช่วยเหลือการเรียน เลี่ยงการคุยกันนานๆจนรบกวนเวลาที่ควรอยู่รวมในครอบครัว มีเวลาพบกันในยามว่างเป็นครั้งคราว การที่มีขอบเขตที่เหมาะสมจะทำให้เป็นที่ยอมรับของผู้ใหญ่
         4.โอกาสที่สูญเสีย ช่วงวัยรุ่นเป็นช่วงที่มีการเรียนรู้และปรับตัวสูงมากช่วงหนึ่งของชีวิต การเรียนรู้จักเพศตรงข้ามตามที่กล่าวมาข้างต้นนั้น จำเป็นที่ทั้งคู่จะต้องใกล้ชิดกันเพิ่มขึ้น การพูดคุย การทำกิจกรรมร่วมกันทั้งในและนอกโรงเรียน จะทำให้วัยรุ่นได้เรียนรู้จักกัน และยิ่งวางสถานภาพเป็นเพียงแค่ “ เพื่อนที่น่าสนใจ” จะยิ่งเปิดโอกาสแก่ตัวเองในการศึกษาเพศตรงข้ามได้หลายคน และถ้าอยู่ในกลุ่มเพื่อนหลายคน ไปไหนไปด้วยกัน ร่วมลำบาก เผชิญปัญหาต่างๆก็จะยิ่งเข้าใจ เรียกว่าได้เรียนรู้เพศตรงข้ามอย่างปลอดภัย ระยะที่คบกันใหม่ๆทุกคนจะแสดงส่วนที่ดีออกมาทั้งนั้นเพื่อสร้างความประทับใจ แต่ถ้าคบกันเกิน 5-7 ปี ก็จะเข้าใจตัวจริง แต่การที่ทั้งคู่ยอมรับว่าเป็นแฟนกันเร็วเกินไป นอกจากจะตัดโอกาสในการทำความรู้จักคนอื่นแล้ว ยังเสียโอกาสในการเรียนรู้อีกหลายด้านของชีวิตไปอย่างน่าเสียดายเพราะมัวแต่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานเกินไป
          5. ให้พ่อแม่รับรู้ พ่อแม่หลายคู่ที่ไม่ใกล้ชิด สนิทสนมกับลูกวัยรุ่นมักจะเป็นผู้ที่รับรู้เรื่องราวต่างๆได้ช้ามาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติในตัวพ่อแม่ที่จะพัฒนาเทคนิค ปรับตัว วิธีพูดคุยกับวัยรุ่นได้ดีเพียงไร ขณะเดียวกันวัยรุ่นจะไตร่ตรองทัศนคติของพ่อแม่ว่าจะยอมรับในเรื่องเพศได้ดีมากน้อยแค่ไหนเช่นกัน การที่วัยรุ่นได้พบคนที่รักและถูกใจก็เป็นความภาคภูมิใจในชีวิตอย่างหนึ่ง และถ้านำมาให้พ่อแม่ได้รู้จักคนที่เขารักและมองเห็นข้อดีในตัวแฟนเขา ก็จะยิ่งรู้สึกว่าเข้ากับพ่อแม่ได้เพิ่มขึ้น พ่อแม่ก็จะมีโอกาสศึกษาและให้ข้อชี้แนะวัยรุ่นได้ แต่ในทางตรงข้ามถ้าพ่อแม่แข็งกร้าว ดุดัน วัยรุ่นจะยิ่งหลบซ่อน ทำให้การชี้แนะต่างๆทำได้ยาก ขาดโอกาสเรียนรู้ถึงความถูกต้อง เหมาะสม
รายละเอียดข้อมูลที่ศึกษา

  การสนใจเพศตรงข้ามเป็นธรรมชาติของวัยรุ่น การที่วัยรุ่นจะคบเพื่อนต่างเพศไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดในสังคมปัจจุบัน
     ลักษณะการคบเพื่อนต่างเพศ
  - คบแบบเพื่อน
  - คบแบบคู่ควงหรือคู่รัก
อายุระหว่าง 14-16 ปี เด็กชายจะเริ่มสนใจผู้หญิง บางคนเริ่มจับคู่กัน วัยรุ่นชายและหญิงต้องการการตอบสนองทางเพศแตกต่างกัน
การคบกันแบบคู่ควงหรือคู่รักความรักระหว่างหญิงชาย มักเริ่มต้นจากความรู้สึกชอบพอกัน อารมณ์รักที่เกิดขึ้นจะทำให้ทั้งคู่รู้สึกคิดถึงกัน อยากเห็นหน้าและต้องการพูดคุยใกล้ชิดกันตลอดเวลา แต่อารมณ์รักของหญิงและชายก็มีการแสดงออกที่แตกต่างกันอยู่ไม่น้อย เพราะธรรมชาติสร้างผู้ชายและผู้หญิงให้มีความแตกต่างกันทั้งทางร่างกายและจิตใจ และนั่นเป็นสาเหตุที่อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์


ความรักเป็นเหตุให้ชายและหญิงต้องการอยู่ใกล้ชิดกัน ได้นั่งพูดคุย หยอกล้อ สบตากันปิ๊งๆๆ อยากสัมผัสมือกัน จูงมือเดินคุยกันกระหนุงกระหนิง เมื่อสัมพันธภาพแน่นแฟ้มมากขึ้น ก็เปลี่ยนจากการจับมือเป็นโอบไหล่ กอดคอ ในช่วงแรกๆ การพบกันทุกครั้งยังอยู่ในที่เปิดเผย เพราะฝ่ายหญิงอาจจะยังไม่แน่ใจในฝ่ายชายมากนัก แต่เมื่อความรักดำเนินการไปถึงขั้นไว้วางใจ ทั้งคู่จะเริ่มรู้สึกว่าต้องการมีเวลาอยู่กันตามลำพังโดยไม่มีเพื่อนๆ คอยขัดคอหรือถูกแซวเวลาจีบกัน การนัดพบเป็นกลุ่มจึงเปลี่ยนเป็นการนัดพบกันตามลำพังสองต่อสองในที่ลับตาคนมากขึ้น เพราะทั้งคู่เริ่มต้องการความเป็นส่วนตัวที่จะสามารถจู๋จี๋กันได้อย่างสนิทใจ แบบไม่มี ก-ข-ค โดยไม่ได้เฉลียวใจแม้แต่น้อยว่าความใกล้ชิดประกอบกับความพึงพอใจ และความแตกต่างระหว่างชายหญิงจะเป็นบันไดที่นำไปสู่ความรักซึ่งเป็นความปรารถนาที่ซ่อนเร้นของมนุษย์ที่กำลังตกอยู่ในความรัก
วัยรุ่นกับการอกหัก
  มีวัยรุ่นหลายคนที่เคยพบกับปัญหาถูกแฟนหรือคนรักตีจาก ต้องพกพาความเศร้าเสียใจ ความชอกช้ำระกำใจ ร้องไห้ฟูมฟายว่าตนเองกลายเป็นคนอกหัก ถูกแฟนหรือคนรักหมดรัก ทอดทิ้ง และกล่าวโทษตนเองว่าไม่ดีพอ ไม่สวย ไม่น่ารัก จึงไม่สามารถพิชิตใจคนรักไว้ได้ กล่าวโทษคนรักว่าเขาไม่ดี หลายใจ มากรัก ไม่ซื่อสัตย์ ทั้ง ๆ ที่ตนเองเป็นคนดี ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้เขาทั้งหมด เป็นต้น
  ฉะนั้น เราต้องดำเนินชีวิตอยู่เพื่อค้นพบในสิ่งที่ดีกว่าเดิม ไม่จมกับอดีตนานเกินไป เมื่อเราค้นพบความสำเร็จ ความลงตัวในชีวิตที่แท้จริง เราจะรู้ว่าประสบการณ์ครั้งเก่าก่อน สอนให้เราต่อสู้ชีวิตได้มากทีเดียว สิ่งที่เราเคยคิดว่าเราสูญเสียไปกับความรักที่ทำให้เราอกหัก แท้จริงไม่ได้มากอย่างที่เราคิดเลย